มุมเธอ มุมฉัน มุมนั้น มุมนี้ - ตอน 1
การอยู่ร่วมกันท่ามกลางความหลากหลายเป็นวรรคทอง
ที่ใครๆก็ “พูด”กันว่าเป็นเรื่องสำ คัญ แต่การ “อยู่ร่วม
กัน”
อย่างเข้าใจและยอมรับกันได้ยังเป็นสิ่งที่น่าจะไม่ง่ายนัก
หากประเมินจากเคสปัญหาความขัดแย้งที่ยังเกิดขึ้นอยู่
ในสังคมตอนนี้ ความตั้งใจและที่มาที่ไปของ “มุมเธอ มุม
ฉัน มุมนั้น มุมนี้”เกิดจากการที่ผู้เขียนซึ่งทำ งานด้านการ
จัดการความขัดแย้งและลองฝึกฝนเรื่องนี้ในชีวิตประจำ
วันอยู่เรื่อยๆ บางวันทำ ได้ดี บางวันทำ ได้แย่ แต่ก็สนุก
ท้าทายกับแบบฝึกหัดฝึกเหล่านี้ จึงอยากจะมาเล่า แบ่ง
ปัน เรียนรู้ และสร้างพื้นที่เล็กๆ ออนไลน์เพื่อร่วมกัน
ฝึกฝนกับโจทย์ของทักษะการอยู่กับฉัน เขา เรา เธอ ที่
แตกต่างกันได้อย่างเข้าใจ โดยยังเคารพกันและไม่ผลักไส
กัน วันนี้ขอเล่าประสบการณ์ “มุมเธอ มุมฉัน มุมนั้น มุม
นี้”ของผู้เขียนที่เกิดขึ้นในร้านกาแฟนะคะ
....เช้าวันหนึ่งที่ต้องไปสนามบินแต่เช้า และด้วยเวลาที่
วางแผนมาอย่างดี เราตั้งใจจะไปนั่งกินมื้อเช้าที่ร้าน
กาแฟแบบเนิบๆที่นั่น...พอไปถึงก็สั่งอาหารและมานั่งรอ
ที่โต๊ะอย่างสบายใจ...รอไป 20 นาที อาหารที่สั่งก็ยังไม่
มา แต่ลูกค้าที่เราจำ ได้ว่า เค้ามาหลังเราเป็น 10 นาที
กลับได้อาหารแล้ว...เราจึงแจ้งพนักงานว่า อาหารที่สั่ง
ไปยังไม่ได้และสั่งไว้นานแค่ไหนแล้ว พร้อมยื่นบิลให้ดู
เวลา พร้อมทั้งบอกวัตถุประสงค์ว่า
ขอยกเลิก...น้องพนักงานก็ทำ ให้ตามประสงค์ตอนน้อง
เอาเงินมาคืนเราได้คุยกันถึงความพยายามของลูกค้า
อย่างเราที่จะบอกถึงการรอที่นานเกินไป ส่วนน้องเค้าก็
อธิบายถึงความพยายามที่จะไปตามเรื่องให้ ถ้าดูเผินๆ
เหมือนเรา “ต่อปากต่อคำ ” กัน ซึ่งภาวะแบบนี้หลายคน
มองว่าเป็นบรรยากาศที่ตึงเครียดและเป็นด้านลบ
สำ หรับเรา ห้วงเวลาแบบนี้มันกลับทำ ให้เราคู่สนทนา
ที่อาจจะเห็นไม่ตรงกันมองคนละมุมกัน ได้หันมาฟัง
“เนื้อหา” ของอีกฝ่ายได้ดีขึ้น
ได้ฟังสิ่งที่อีกฝ่ายอยากจะบอก...ซึ่งบรรยากาศที่ทำ ให้
เราได้ฟังกันมันก็มีส่วนจากการพยายามดูแล “อารมณ์
ความรู้สึก”จากฝั่งตัวเองไม่ให้พุ่งปรี๊ดไปกลบสาระที่
ต้องการจะพูดคุยกันเช่นกัน...ขอบคุณคู่สนทนาและ
ตัวเองที่นำ พาการคุยให้ไปถึงจุดที่เราได้เรียนรู้กัน
น้องเค้าได้ฟังเราว่ามีปัญหาอะไร เราได้ฟังว่าน้องเค้าก็
พยายามแล้วแค่ไหนและเราได้ข้อสรุปร่วมกันว่า
ปัญหาเกิดจากอะไรและควรแก้ไขอย่างไรความขัดกัน
มันไม่ใช่ตัวปัญหานะ วิธีจัดการกับมันต่างหากจะอาจ
เป็นปัญหาได้ ถ้าเราไปกดมัน บังคับมัน...ดังนั้น
การพูดคุยไม่ว่าจะให้ระดับใดและในประเด็นปัญหาใด
มันนำ มาซึ่งการได้เรียนรู้กันของคนที่คิดต่างกันได้
เสมอ ไม่ว่าจะช้าจะเร็ว.....คราวหน้า จะมาเล่าให้ฟังนะ
คะว่า คนทำ งานด้านความขัดแย้งมอง
“ความขัดแย้ง” อย่างไร ทำ ไมจึงชวนให้มองใหม่ว่า
ความขัดแย้งไม่ใช่ปัญหาและเค้าเสนอทางออกในการ
จัดการกับความขัดแย้งอย่างไรบ้าง