ร้อยเรื่องเมืองสร้างสรรค์
165 Share
ปีที่ 1 ฉบับที่ 1
15 - 30 พฤศจิกายน 2565
หน้า 7/14
กลับหน้าแรก
Car free day
วันปลอดรถ

ผมได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนเรื่องนี้จากการพูด คุยกับอาจารย์ ยงยุทธ์ หนูเนียม นักคิด สถาปนิก และ กวีท่านนึงของเมืองสงขลาในรายการสงขลาใกล้ ใกล้ ทะเล เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทำ ให้เปลี่ยนเนื้อหาของ บทความ ร้อยเรื่องเมืองสร้างสรรค์ เรื่องแรก มาเขียน ถึงรอบด้านของ”วันปลอดรถ”ในมุมมองของผม และ แขกรับเชิญ

วันปลอดรถ ของหลายๆคน มักจะนึกถึงวันที่ปิดถนน แล้วมีคนมาแบ่งแผงขายของ กั้นรถห้ามเข้าออก เมือง ต้องคึกคักไปด้วยผู้คนมาจากทุกสารทิศ มีการแสดง เสียงอึกทึก มีร้านรวงตั้งแผงขายข้าวของที่ต่างสรรค์ มานำ เสนอ เมื่อจบงานก็ทิ้งขยะทิ้งสิ่งของไว้รอเทศบาลมาไล่ตาม เก็บ รอบแล้วรอบเล่า เบื้องหลังการจัดก็มีบาดแผล ของเมืองที่เกิดการกระทบกระทั่ง รบกวนการเป็นอยู่ เสียงดัง แย่งพื้นที่ทำ เล และกีดขวางการเข้าออกบ้าน ช่องของผู้คนบนถนนสายนั้น

วันปลอดรถในนิยามของพี่ยงยุทธ์ พี่หนู และผม ในวัน นั้น เรานึกถึงอะไรกัน เรานึกถึงผู้คนที่อาศัยอยู่รอบๆและละแวกใกล้เคียง แน่นอนวันปลอดรถที่เรานึกถึงไม่ได้นิยามถึงการท่อง เที่ยวบนถนนสายธุรกิจหรือถนนสายดังอย่างนางงาม นครใน หรือ ถนนนครนอกเพียงแค่นั้น วันปลอดรถ เราฝันเห็นวันที่เด็กออกมาวิ่งเล่นบนถนน จับกลุ่มมีกิจกรรมสันทนาการ บางบ้านออกมาตีแบด กันหน้าบ้าน
หรือยกโต๊ะออกมานั่งกินน้ำ ชาพูดคุยกัน ใครมีของ เหลือใช้ ก็จะเอามาวางขายแลกเปลี่ยนกัน ไม่แปลกที่จะมีร้านค้า รถเข็น หรือ เปิดมุมขนม ชุมชน ออกมาตั้งขายบริการเป็นสีสรรค์ของย่านที่ จัดวันถนนปลอดรถ

วันปลอดรถ อาจจะเริ่มจากจุดเล็กๆ ตามย่านต่างๆ ของเมือง ให้มีสักวันนึงของย่านที่สงบเงียบจากรถ ราที่สัญจรผ่านไปมา แล้วค่อยๆขยายเป็นวงกว้างขึ้น หรือ เกิดขึ้นเป็นหย่อมเป็นจุด

แน่นอนกว่ามีวันปลอดรถในแต่ละจุด จะต้องทำ การ บ้านร่วมกันของผู้คนที่อาศัยในละแวกนั้นทั้งอยู่ อาศัยทั้งทำ มาหากินทั้งวัดทั้งหน่วยราชการต่างๆที่ ดูแล เพื่อมากำ หนดวันสบายๆวันใดวันนึงของเดือน อย่างเช่นกลุ่มร้านค้าอาจเสนอวันที่ร้านรวงส่วน ใหญ่เคยปิดเพราะคนไม่ค่อยมา หรือ ชาวบ้านอาจ เสนอวันสุดสัปดาห์ที่ลูกหลานกลับบ้านมาอยู่พร้อม หน้าพร้อมตา หน่วยราชการ อาจอยากให้เป็นวัน กลางสัปดาห์ที่จัดการไม่ยาก แล้วมาหาวันที่ส่วน ใหญ่ชอบ จึงค่อยมาแบ่งงานกันว่า >>